ในโลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ไวรัส และเชื้อโรค การมี เกราะป้องกัน ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็น และเกาะป้องกันที่ดีที่สุดนั้น หาได้ไม่ยากเลย เพียงแค่เพิ่ม ผักและผลไม้ หลากสีสันลงไปในมื้ออาหารของคุณเท่านั้นเอง
ผักและผลไม้ไม่ใช่แค่อาหารที่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังเป็นคลังสารอาหารสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกาย และเป็นแนวหน้าในการต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ

ผักและผลไม้อุดมไปด้วยสาร ต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี(Vitamin C) เบต้าแคโรทีน(Beta-carotene) ไลโคปีน(Lycopene) และฟลาโวนอยด์(Flavonoid)
สารเหล่านี้จะช่วย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCDs) หลายชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง
ตัวอย่างเช่น ผลไม้ตระกูลส้ม มีวิตามินซีสูง ,มะเขือเทศและแตงโม มีไลโคปีน ,มะละกอ และแครอท มีเบต้าแคโรทีน
ผักและผลไม้เป็นขุมพลังในการ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายให้พร้อมรับมือกับเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย
วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซีและสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น ผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว มะขามป้อม และผักพื้นบ้าน บางชนิด
ผักและผลไม้เป็นแหล่งของ ใยอาหาร(Fiber) ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพทางเดินอาหาร
ใยอาหาร ช่วยดูดซับของเสีย และกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ป้องกันท้องผูก และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งการมีลำไส้ที่แข็งแรงจะส่งผลดีต่อภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกายด้วย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เราบริโภคผักและผลไม้วันละ 400 กรัม และที่สำคัญต้องเลือกกินให้ หลากหลายสี เพราะผักแต่ละสีมีสารอาหารและสรรพคุณในการต้านโรคที่แตกต่างกัน

สรุป : การกินผักและผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมและมีความหลากหลายเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพที่ดีและห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ
หมายเหตุ : ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพทั่วไป การบริโภคผักและผลไม้เป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดี แต่ไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้